"ผมไม่ได้ทิ้งลูกเมีย อยากให้ฟังและขอความเห็นใจบ้าง
ส่วนลูกได้ฝากเงินบัญชีฝากประจำ 5 แสนบาท และทำประกันชีวิตไว้ให้
ติดใจตรงที่ว่าหลังจากถูกหวยทางญาติฝ่ายเมียอยากให้จดทะเบียนสมรส
หากไม่จดทะเบียนสมรสก็ไล่หนีออกมาเลย จึงต้องออกมาจากบ้านเมีย
อยากฝากไปถึงเมียว่าทำไมถึงทำกันเช่นนี้ ตั้งใจว่าจะพามาอยู่ด้วยกัน
หลังจากปรับพื้นที่ดินเสร็จ ยังจำได้ไหมสมัยไม่มีเงิน "มด"
เป็นคนไล่พี่หนีออกจากห้องเช่าเอง ไม่มีเงินแม้กินข้าว
รถก็จะถูกยึดแต่เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้คงจะขอรับไว้แค่ลูกคนเดียวเท่า
นั้น" หนุ่มดวงเฮง กล่าว
ขณะที่นางเสาวนีย์
เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า
รู้สึกเสียใจกับสามีที่ออกมาบอกว่าจะไม่รับตนเองเป็นภรรยาจะรับเฉพาะลูกเท่า
นั้น ตนขอถามย้อนกลับไปว่า ช่วงลำบากด้วยกันที่คบกัน 2
ปีไม่ใช่ตนเองเหรอที่ทำงานใช้หนี้เงินดอกให้
แล้วสร้อยคอทองคำที่แม่ซื้อให้ก็ถอดไปจำเพื่อหาเงินใช้หนี้ให้
พร้อมกับกล่าวทั้งน้ำตาว่าช่วงที่จะคลอดลูกขอยืมรถยนต์เพื่อเอาไว้หากเจ็บ
ท้องคลอดลูกจะได้ให้พี่ชายขับไปโรงพยาบาลทันแต่ก็ไม่ให้ยืม
และตั้งแต่ถูกหวยกลับมาอยู่บ้านนายธรรมรงค์แวะมาเยี่ยมลูกเพียง 2
ครั้งเท่านั้น ครั้งมาล่าสุดยังบอกว่า บ้านสกปรกอยู่ไม่ได้
แต่ก่อนทำไมอยู่ได้เคยบ้างไหมตั้งแต่ถูกหวยที่จะมารับภรรยากับลูกไปทานอาหาร
ดี ๆ ก็ไม่เคย และตั้งแต่ถูกหวยลูกป่วยมาตลอดก็ไม่เคยมาดูแลลูก
"ที่ต้องไปเรียกร้องสิทธิเพราะว่าเขาเป็นคนส่งข้อความบอกเลิกทางโทรศัพท์มา
หาตนเองเมื่อวันที่ 12 ต.ค.ก่อนไปศาลแค่วันเดียว
จึงทำให้รู้แล้วว่าถูกทิ้งแน่นอน ถามว่าเบื่ออารมณ์เมียแล้ว 2 ปี
ทำไมอยู่ได้มาถึงนี้แล้วจะขอเรียกร้องสิทธิที่พึงจะได้ของภรรยา และลูก
แม้จะไม่ได้จดทะเบียนก็ตาม คงจะไม่มีอะไรฝากไปถึงขอให้ไปเจอที่ศาลก็พอ"
นางเสาวนีย์ กล่าว
ด้าน รต.ดุสิต พรหมสิทธ์
ทนายความชื่อดังของ จ.อุดรธานี และเป็นกรรมการช่วยเหลือประชาชนทางกฏหมาย
สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ได้ให้ข้อคิดว่า ในกรณีดังกล่าวทราบว่า
สองสามีภรรยาไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันทรัพย์ที่ได้มาจากการถูกฉลากไม่ใช่เป็น
สินสมรส ไม่สามารถเรียกร้องได้ แต่ฝ่ายหญิงนั้นมีบุตรด้วยกัน
ฝ่ายหญิงต้องร้องต่อศาลขอค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรนั้น
ต้องให้ศาลมีคำสั่งว่าเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฏหมายถึงจะมีการร้องเรียกค่า
เลี้ยงดูได้ ส่วนเงินที่ได้ขึ้นอยู่กับสภาพฐานะของฝ่ายชาย
ตอนนี้ฝ่ายชายมีฐานะแล้ว
ในค่าเลี้ยงดูก็อยู่ที่ศาลจะให้ความเมตตาพิจารณาว่าเด็กนั้นอายุเท่าไหร่
กว่าจะโตไปภายหน้า
มีการศึกษาเข้ามหาวิทยาลัยหรือการดำรงชีพนั้นจะเป็นอย่างไรก็จะเป็นดุลย์
พินิจของศาลท่านว่าจะมีคำสั่งให้ค่าเลี้ยงดูเท่าไหร่
ส่วนกรณีทั้งสองฝ่ายต่างอ้างว่าเงินที่ซื้อลอตเตอรี่ที่ถูกเป็นเงินของตัว
เองทั้งสองฝ่ายต้องมีการพิสูจน์ จากคนที่เห็นหรืออยู่ในเหตุการณ์
และช่วงเวลาที่ไปขอรับรางวัลนั้นได้ไปด้วยกันหรือเปล่า
ถ้าไปด้วยกันภรรยาน่าจะมีส่วนได้ในเงินนั้นด้วย.“
credit by:http://www.siamupdate.com/news-177695